ในขณะที่โลกปืนสั้นป้องกันตัวหมุนไปหาปืนออโตลูกดกจนแทบจะไม่มีใครสนใจปืนลูกโม่ คลิ๊นท์กลับมองว่าเจ้าปืนลูกโม่ทรงโบราณนี่แหละเหมาะมากสำหรับการต่อสู้ป้องกันตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทที่มีลำกลัองรูโตๆพ่นหัวกระสุนหนักๆออกไปได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญต้องขนาดไม่ใหญ่เกิน ไม่หนักเกิน และเรียบง่ายด้วยศูนย์ตายติดโครงปืนไม่ต้องมีศูนย์ปรับได้ให้เกะกะ
ด้วยความคิดออกเสียงดังของคนมีชื่อเสียงอย่างคลิ๊นท์ทำให้บริษัทใหญ่ๆ อย่างสมิทรับฟัง ปืนกระบอกแรกตามหลักการนี้ก็คือ Smith & Wesson Model 21-4 Thunder Ranch Revolver ขนาด .44 สเปเชี่ยล
Smith & Wesson Model 21 Thunder Ranch Revolver ขนาด .44 สเปเชี่ยล
โมเดิล 21-4 ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ในหกเดือนที่เปิดตัวมา Smith ขายปืนรุ่นนี้ได้มากกว่าเป็นสองเท่า Model 21 รุ่นเดิมที่ผลิตขายอยู่16ปีเสียอีก และนั่นก็ทำให้มีปืนกระบอกต่อมาในความคิดเดียวกันก็คือ Smith & Wesson Model 22-4 Thunder Ranch Revolver ขนาด .45 ACP ที่เปิดตัวออกมาในปี 2007
Smith & Wesson Model 22-4 Thunder Ranch Revolver ไม่ใช่การนำปืน 1917 หรือ Model 22 มาผลิตใหม่ซะทีเดียว อย่างแรกก็คือมันมีความยาวลำกล้อง 4นิ้ว และมี ฝักหุ้มก้านคัดปลอก ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนใน Model 22 อีกจุดหนึ่งก็คือใบศูนย์หน้าที่ยึดไว้ด้วยหมุด ทำให้สามารถถอดเปลี่ยนได้ (ศูนย์หน้าเดิมของ Model 22 ยึดติดตายกับลำกล้อง)
แต่ขณะเดียวกัน Model 22-4 ก็นำสองอย่างที่หายไปนานจากปืนลูกโม่ของ Smith & Wesson กลับมา
อย่างที่หนึ่งก็คือ โครงปืนที่เราเรียกกันว่า Square Butt ปืนโครง N รุ่นหลังๆของสมิทได้เปลี่ยนไปใช้ด้ามมน Round Butt กันหมดแล้ว รวมทั้งสมิท เฮอริเทจ ซี่รี่ โมเดล 1917 ที่ผมเขียนไว้ข้างบนด้วย
อย่างที่สองก็คือหมุดยึดเพลตข้างปืนตัวที่ 4 ที่บนสุดด้านขวาของโครงปืน น๊อตตัวนี้ถูกตัดหายไปตั้งแต่การลดต้นทุนในปี 1957 โน่นเลยครับ



โอ้มันเยี่ยมมาก
ตอบลบสุดยอด
ตอบลบดูดีครับ
ตอบลบปล่อยไหมครับ
ตอบลบน่ากลัวจังเลยย
ตอบลบดีมาก
ตอบลบ